5 เคล็ดลับการฉาบปูนให้เหมือนมืออาชีพ
ต้องรดน้ำต่อเนื่องเพื่อเป็นการบ่มผนัง
ควรมีการรดน้ำผนังที่ฉาบเสร็จแล้วต่อไปอีกวันละอย่างน้อย 1 ครั้ง ตลอดระยะเวลา 3-7 วันหลังฉาบเสร็จ เพื่อให้เนื้อปูนมีน้ำเพียงพอต่อการทำปฏิกิริยา จะทำให้กำแพงที่ได้สวยและแข็งแรงยิ่งขึ้น
ไม่ควรก่ออิฐภายในวันเดียว
ปูนจำเป็นต้องใช้เวลาในการเซ็ทตัวและพัฒนาความแข็งแรง รวมถึงน้ำที่ระเหยออกจากเนื้อปูนจะทำให้ปูนยุบตัวลงเล็กน้อย แม้จะเพียงไม่กี่มิลลิเมตร แต่ก็ส่งผลให้เกิดการแตกร้าวของผนังหลังฉาบได้เช่นกัน
อย่าฉาบเร็วเกินไป
งานฉาบเป็นงานที่ต้องอาศัยความพิถีพิถัน ไม่ควรเร่งรัดขั้นตอนการฉาบกับงานที่คาดหวังความสวยงาม และความคงทนยาวนาน ควรใส่ใจขั้นตอนฉาบให้มาก
อย่าฉาบหนาจนเกินไป
ไม่ควรฉาบให้หนาเกินไป (ไม่ควรหนาเกิน 1.5 เซนติเมตร) เพราะชั้นปูนฉาบจะแห้งช้าลง ทำให้เป็นอุปสรรค์ต่อการทำงานได้ อีกทั้งจะก่อให้เกิดปัญหาเรื่องน้ำหนักหากจำเป็นจริง ๆ เช่น ผนังก่ออิฐมีการโน้ม หรือโน้มไปด้านหลังบางส่วน ทำให้ต้องเพิ่มความหนาของปูนฉาบ
อย่าเห็นแก่ราคาวัสดุที่มีคุณภาพถูก
วัสดุก่อสร้าง เป็นสิ่งที่ใช้ประกอบขึ้นมาเป็นบ้านหรือสิ่งปลูกสร้างซึ่งต้องการความแข็งแรงทนทานใช้งานยาวนาน แต่ความจำกัดของงบประมาณอาจทำให้หลายคนเลือกวัสดุที่ราคาถูก และเน้นที่ความสวยงามเป็นหลักการทำให้ราคาถูกลงในหลายๆ ครั้งหมายถึงการลดคุณภาพให้เหลือแค่ระดับมาตรฐาน วัสดุราคาถูกอาจสามารถสร้างขึ้นเป็นบ้านหนึ่งหลังได้ แต่อายุการใช้งานอาจต่ำกว่าที่คาดหวัง ทำให้เมื่อเวลาผ่านไป อาจต้องมีการซ่อมแซมและก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายตามมาที่มากกว่า ดังนั้นควรเลือกวัสดุที่คุณภาพดีมีมาตรฐาน
ทั้งหมดนี้คือเทคนิคในการฉาบปูนให้ออกมาสวยงาม แข็งแรง ลดโอกาสหน้าปูนแตก ลองนำไปปรับใช้กันดูนะครับ
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
vv กดรูปสินค้าเพื่อศึกษาข้อมูล vv
: วันที่ 25 เมษายน 2566